วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

รถไฟชีวิต

ชอบมาก รถไฟ...ชีวิต !!!!
อ่านแล้วอ่านอีกไม่เบื่อ

ชีวิตเหมือนกับการเดินทางโดยสารรถไฟ... มีสถานีต่างๆ... มีการเปลี่ยนเส้นทาง...  มีกระทั่งอุบัติเหตุ......

เราขึ้นรถไฟขบวนนี้ตอนเราถือกำเนิด.... พ่อแม่ คือคนที่ตีตั๋วให้เรา...

เราเชื่อว่าท่านจะเดินทางด้วยรถขบวนนี้ กับเราตลอดไป....

แต่แล้ว..ที่สถานีใด สถานีหนึ่ง
ท่านทั้งสองก็ต้องลงรถจากไป... ปล่อยเราไว้เพียงลำพังกับการเดินทางนี้....

วันเวลาผ่านไป... จะมีผู้โดยสารอื่นๆขึ้นรถ มาเรื่อยๆ... หลายคนจะเป็นคนที่เรารัก และผูกพัน.. เป็นพี่เป็นน้อง.. เป็นเพื่อน..  เป็นลูกเป็นหลาน หรือกระทั่งเป็นที่รัก แห่งชีวิตของเรา....

หลายคนลงรถไปกลางทาง... ทิ้งไว้แค่ความทรงจำความอ้างว้างและคิดถึงอันถาวรในชีวิตเรา..

หลายคนจากไป... อย่างที่เราไม่ทันได้ สังเกตด้วยซ้ำว่า...    เขาลุกจากที่นั่ง และลงรถไฟไปแล้ว !

การเดินทางโดยรถไฟชีวิตขบวนนี้ จึงเต็มไป ด้วยความรื่นรมย์... ความโศกเศร้า... ความมหัศจรรย์...ความสมหวัง... คำสวัสดี...คำอำลา... และคำอวยพรให้โชคดี

การเดินทางที่ดีที่สุด คือ การได้ช่วยเหลือ... ได้รัก...ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน ผู้โดยสารทุกคน ...จงแน่ใจว่าเราได้ให้ สิ่งที่ดีที่สุด  เพื่อให้การเดินทางของพวกเขา มีความราบรื่นและสะดวกสบาย

ความน่าพิศวงของการเดินทางอันวิเศษยอดเยี่ยมนี้คือ... ตัวเราเองก็ไม่รู้ล่วงหน้า ว่าเราจะต้องลงจากรถไฟที่สถานีไหน.....

ฉะนั้น...เราต้องมีชีวิตให้แจ๋วที่สุด...ปรับปรุงตัวเอง...รู้จักลืม...รู้จักอภัย...ให้สิ่งดีที่สุด ที่เรามีแก่คนรอบข้าง

สำคัญเหลือเกิน ที่เราควรทำอย่างนี้...
เพราะเมื่อถึงเวลาที่เราต้องลุกจากที่นั่ง..เพื่อลงจากรถไฟไป เราจะได้ทิ้งความทรงจำ ที่สวยงามไว้แก่ผู้คน ที่ต้องเดินทาง โดยสาร รถไฟขบวนชีวิตนี้ต่อไป

ขอบคุณมากๆ ที่มาเป็นผู้โดยสารคนหนึ่ง ในขบวนรถไฟชีวิต ของกันและกัน

ขอให้ผู้ร่วมทางทุกท่านพบพานแต่ความรื่นรมย์ในการเดินทางบนขบวนรถไฟสายชีวิต... ที่ครั้งหนึ่ง ช่วงเวลาหนึ่ง ณ สถานีใด สถานีหนึ่ง เรามีโอกาสได้เดินทาง ร่วมกัน

ช่วย Share ต่อให้คนที่คุณรักนะ

วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2559

จรรณยาบรรณตัวแทนประกันชีวิต

ทุกสาขาอาชีพล้วนมีกรอบและกติกาในการดำเนินงานของตนเอง
สำหรับกฎเกณฑ์การเป็นตัวแทนประกันชีวิตนั้นต้องบอกเลยว่าไม่ยากและไม่ง่าย หากเรามีพร้อมครบทั้ง 10 ข้อ เชื่อเลยว่าใครๆ ก็อยากเป็นเพื่อนกับคนดี  อยากอุดหนุนสนับสนุนคนดี อยู่ใกล้ๆกับคนดี คนเก่งๆ ก็จะพากันทำแต่เรื่องดีๆ ทั้งนี้ก็เพื่อพัฒนาตนเอง สังคม ประเทศชาติต่อไป

ในการทำหน้าที่ของตัวแทนสิ่งสำคัญเลยที่ต้องมีในใจและยึดเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตทุกสาขาอาชีพนั่นคือต้องมี
1.  ความซื่อสัตย์สุจริต  เชื่อเหลือเกินว่าใครคนไหนไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตก็จะไม่สามารถดำเนินชีวิตที่เกิดมาในชาตินี้ได้ราบรื่นจะต้องมีเรื่องให้ปวดหัว เจ็บตัว เศร้าใจเสมอ ไม่ว่าจะซื่อสัตย์ต่อตนเองหรือเพื่อนร่วมสังคม ปัญหาหากคนเรามีความซื่อสัตย์สุจริตหลากหลายปัญหาในสังคม ประเทศชาติและโลกเองก็คงไม่เกิดขึ้น

2.  ให้บริการที่ดี สม่ำเสมอ รักษาผลประโยชน์ของผู้เอาประกัน การไปมาหาสู่มากกว่าตัวแทนประกันชีวิตคือเราได้รู้จัก รักกันดุจญาติพี่น้องห่วงหาอาทร คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่เสมอ ไม่ทอดทิ้งในยามที่ใครเดือดร้อนทั้งเพื่อนร่วมอาชีพและลูกค้า สำคัญคนในครอบครัวเราเองต้องรักษาน้ำใจกันอยู่ตลอด เชื่อเหลือเกินว่าหากวันนี้คุณเป็นคนดี ก็จะเจอแต่ลูกค้าดีๆ มีเมตตา เป็นคนดีของสังคมเช่นเดียวกับคุณแน่นอน เพราะบุญมีร่วมกันเราทุกคนเลยต้องมาเจอกัน หากไม่มีบุญต่อกันแม้จะอยู่บ้านตรงข้ามกันก็ไม่รู้จักกัน ฉะนั้นวันนี้เราโชคดีเหลือเกินที่ได้รู้จักกันรักษาน้ำใจของกันและกันให้มากๆ อย่าให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แล้วคุณจะได้มิตรแท้พร้อมจะช่วยเหลือกันไปตลอดกาล

3.  การรักษาความลับ  ความลับก็คือข้อมูลส่วนตัว หากคุณเอาเปิดเผยให้ใครรู้โดยที่ไม่คำนึงถึงผลเสียของการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับย่อมไม่เป็นที่ดีแน่นอน เช่นเดียวกับเราก็ไม่ชอบเหมือนกันที่ใครบางคนจะเอาความลับเราไปเปิดเผย นึกถึงใจเขาใจเราให้มากๆ

4.  การเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความจริงต่อฝ่ายพิจารณารับประกันของบริษัทประกันชีวิต ย้อนกลับไปยังข้อที่ 1 คือหากมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐาน แน่นอนว่าข้อนี้จะทำได้โดยง่ายเลยทีเดียว

5.  เนื่องจาการทำประกันชีวิตย่อมมาจากพื้นฐานจากรายได้และความต้องการบริหารความเสี่ยง หากคุณภาพชีวิตของผู้ขอเอาประกันชีวิตมีรายได้จากการทำงานเยอะ มีภาระรับผิดชอบเยอะ และยิ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว (หัวหน้าครอบครัวไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เป็นพ่อเสมอไป กล่าวคือเป็นบุคคลที่รับผิดชอบในการหารายได้มาจุนเจือครอบครัว) ยิ่งต้องพิจารณาทุนประกันชีวิตให้เหมาะสม หากวันพรุ่งนี้เราไม่อยู่ครอบครัวยังเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่ยากลำบาก นี่หละคือความหมายของการประกันชีวิต อย่างไรก็ดีหากเป็นบุคคลที่มีศักยภาพสูง ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีก็ย่อมมีความจำเป็นคนละแบบในการทำประกันชีวิต  โดยสำหรับคนรวยที่ต้องทำประกันชีวิตคือต้องการส่งมอบความมั่งคั่งให้กับผู้รับผลประโยชน์ซึ่งอาจจะเป็นลูกหลานหรือผู้สืบทอด  เนื่องจากเงินจำนวนเพียงน้อยนิดสามารถสร้างหลักประกันในวงเงินก้อนที่สูงได้มาก ยกตัวอย่างบุคคลอายุ 55 ปี ทำประกันชีวิตเพื่อส่งมอบเป็นมรดกให้ลูกหลานจ่ายเบี้ยเพียงปีละ 8 ล้านบาท แต่คุ้มครองชีวิตในเงิน 100 บาท และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เห็นมั้ยว่าเบี้ยประกันที่จ่ายเพียงหลักหน่วย แต่สามารถเป็นเงินก้อนเป็นหลักร้อยล้าน เห็นมั้ยว่าเป็นการบริหารการส่งมอบสินทรัพย์ที่ชาญฉลาด ที่สำคัญไม่ต้องเสียภาษีมรดกให้ยุ่งยาก...

6.  ค่าบำเหน็จ หรือค่าคอมมิชชั่นจากการขายประกันชีวิต คือน้ำเลี้ยงสำหรับตัวแทนประกันชีวิตเพราะทุกอย่างที่ทำคือต้นทุนในการบริหารกิจการ  และการดูแลผู้เอาประกันไปอีกนานตราบไปจนกว่าว่าใครจะจากโลกนี้ไปก่อน ฉะนั้นหากคนที่ทำธุรกิจย่อมรู้ดีว่า ทุกอย่างคือต้นทุน รวมถึงหากมีรายได้ที่มากก็มีภาระภาษีเพื่อรัฐบาลจะได้นำเงินได้จากภาษีประชาชนไปพัฒนาประเทศชาติต่อไป ฉะนั้นอย่าเลยที่จะเสนอลดค่าคอมมิชชั่น เพราะสุดท้ายแล้วหากคุณทำงานโดยไม่มีรายได้ที่มากพอ คุณก็จะหลุดออกจากอาชีพที่ดีอาชีพนี้ไปโดยปริยาย ลูกค้าก็จะไม่มีตัวแทนดีๆ ดูแลซึ่งกันและกัน แล้วก็จะทำให้เป็นปัญหากับเพื่อนร่วมอาชีพที่คุณไม่มีจุดยืนที่มั่นคงในการรักษามาตรฐานการดูแลลูกค้าหลังการขาย ความรู้สึกที่ไม่ดีของลูกค้าก็จะเกิดกับการประกันชีวิตได้โดยง่าย ทั้งที่จริงๆแล้ว การประกันชีวิตเป็นวิธีการบริหารความเสี่ยงที่ดีมากๆ

7.  ในการเป็นตัวแทนประกันชีวิตเราต้องเลือกแล้วว่าบริษัทประกันชีวิตที่เราจะทำนั้นเป็นบริษัทที่ดี มั่นคง พัฒนาตัวเองอยุ่เสมอมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากร พัฒนาวิธีการทำงาน ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ หากเลือกแล้วก็ขอให้ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ กรมธรรม์ประกันชีวิตทุกเล่มมีคุณสมบัติที่ดีในตัวเองอยู่แล้ว ขอให้ผู้เอาประกันทุกท่านส่งให้ครบสัญญา อย่าซื้อเพียงเพื่อว่าช่วยตัวแทน ช่วยผู้ขาย เพราะประโยชน์จากกรมธรรม์ ผู้รับประโยชน์ที่แท้จริงคือผู้เอาประกันและผู้รับผลประโยชน์ ฉะนั้น หากวันหนึ่งวันใดตัวแทนประกันชีวิตมาบอกให้ยกเลิก และทำเล่มใหม่นั้นบอกได้เลยว่าเป็นตัวแทนที่ไม่มีคุณภาพ มาแนะนำให้ลูกค้าเสียผลประโยชน์ ซึ่งไม่เป็นการดีนั้นหมายความว่าไม่มีความหวังดีกับผู้เอาประกันชีวิต บางคนเขาทำประกันชีวิตด้วยเบี้ยประกันที่กว่าจะหาเงินมาเก็บออมทำประกันเล่มดังกล่าวได้ก็ยากลำบากแล้ว  อย่าทำให้เขาต้องเริ่มต้นใหม่เลย หรือเสียผลประโยชน์จากเล่มเดิมที่ทำอยู่เลย

8.  ตัวแทนประกันชีวิต  บริษัทประกันชีวิต ล้วนแล้วได้รับการฝึกฝนอบรมมาเป็นอย่างดี อย่าไปกล่าวให้ร้ายกับเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมเดียวกันเลย  เราร่วมกันทำงานประกันชีวิตอย่างสร้างสรรค์ เน้นให้คนไทยมีหลักประกันที่มั่นคง เน้นให้ความรู้เกี่ยวกับการประกันชีวิตของคนไทย ซึ่งในขณะนี้คนไทย 70 ล้านคน มีประกันเพียง 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ ทำอย่างไรจะให้คนไทยเรามีประกันชีวิต มีความมั่นคงในชีวิต ไม่เป็นภาระของรัฐบาลในอนาคต เพราะในอีก 20 ปี ข้างหน้าประเทศเราจะกลายเป็นประเทศที่คนสูงอายุเยอะ หากวันนี้ไม่มีการวางแผนเกษียณทีดี แน่นอนว่าภาระทั้งค่าใช้จ่ายประจำวัน คุณภาพชีวิต ค่ารักษาพยาบาลล้วนแล้วมีแนวโน้มที่สูงขึ้น เงิน 1 ล้านบาท ในอีก 20 ปีข้างหน้าจะเหลือมูลเท่าไหร่ลองคิดดู เมื่อก่อนก๋วยเตี๋ยวเราซื้อกินที่ 5 บาท/ถ้วย  ตอนนี้ต่ำๆ ก็ 30 บาท แล้ว เพิ่มขึ้นเป็น 6 เท่า เพียงระยะเวลาไม่กี่ปี   มาช่วยกันนะครับเพื่อให้คนไทยด้วยกันเองมีหลักที่มั่นคงและร่ำรวยอย่างยั่งยืนตลอดไป

9.  หมั่นฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ทันโลก ทันเหตุการณ์ การเรียนรู้เทคโนโลยีทุกวันนี้กลายเป็นเรื่องง่ายไปแล้ว เช่นเดียวกันประกันชีวิตก็มีแบบใหม่ๆ ออกมาเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ยกตัวอย่างทุกวันนี้นวัตกรรมการกรอกใบสมัครเพื่อทำประกันชีวิต ไม่จำเป็นต้องส่งเป็นเอกสารแล้ว มี i Pad เครื่องเดียวเราก็สามารถทำงานส่งงานได้สบายแล้ว

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ภูมิใจนำเสนอคือ แบบประกัน Unit Link  หรือประกันชีวิตควบการลงทุน ซึ่งเป็น นวัตกรรมใหม่สำหรับวงการประกันชีวิต ซึ่งแน่นอนว่าจะพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตไปสู่ที่ปรึกษาการเงินแบบมืออาชีพ เป็นการปรับตัวของบริษัทประกันชีวิต ซึ่งหากตัวแทนไม่มีการปรับตัวเรียนรู้ พัฒนาตัวเองให้เป็นตัวแทนที่มีสิทธิ์การขายประกันชีวิตควบการลงทุน เรามาดูกันว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น  ยินดีต้อนรับผู้มี IC license เพื่อพัฒนาไปสู่ตัวแทนมืออาชีพและก้าวไปสู่ที่ปรึกษาทางการเงินอย่างเต็มภาคภูมิ สำคัญที่สุดอย่าหยุดที่จะเรียนรู้

10.ประพฤติตน อยู่ในศีลธรรมประเพณีอันดีงาม ธำรงไว้ซื่งเกียรติและศักดิ์ศรี และคุณธรรมแห่งอาชีวะปฏิญาณ  เป็นคนดีมากๆ ชัดเจนมากในข้อนี้ อยากให้ทุกท่านมีคุณธรรมประจำใจ ใช้คุณธรรมตัดสินใจเพื่อประโยชน์สูงสุดในทุกๆ เหตุการณ์ หากเราไร้ซึ่งเกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณธรรม ก็จะทำให้การดำเนินชีวิตเต็มไปด้วยปัญหาตลอดไปไม่มีที่สุด

ที่สุดแล้วหากคุณสมบัติไม่ครบก็ไม่สมควรเป็น "ตัวแทนประกันชีวิต" นะครับ