ในหนึ่งชีวิตเกิดมาคนเราล้วนแล้วแต่สถานะ เชื้อชาติ ฐานะ สถานการณ์ สิ่งแวดล้อม ล้วนแล้วแต่แตกต่างกัน ไม่ว่าเราจะอยู่สถานการณ์เช่นไร สิ่งแวดล้อมเช่นไร ทำอะไร ตำแหน่งไหน สถานะอะไร สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนต้องมีคือ "ความรับผิดชอบ"
สิ่งแรกที่ต้องมีคือ ความรับผิดชอบต่อตัวเอง เคยคิดมั้ยว่าเราต้องรับผิดชอบตัวเองอะไรบ้าง
- กินข้าว
- ทำความสะอาดร่างกาย
- ทำการบ้าน
- อ่านหนังสือ
-ดูแลร่างกายตัวเอง
ฯลฯ
เพราะตัวเราเองต้องไม่เป็นภาระของผู้อื่น เราต้องรับผิดชอบในเรื่องพื้นฐานในชีวิตประจำวันของตัวเราเอง หากยังดูแลรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ ก็ยากที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต (แต่ไม่ใช่การเห็นแก่ตัวนะครับ)
เมื่อเติบโตเป็นวัยเรียน เราก็มีหน้าที่รับผิดชอบตั้งใจเรียนหนังสือ หากไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ไม่ว่าจะทำงานหรือทำหน้าที่อะไร ก็ต้องทำหน้าที่รับผิดชอบให้ดีเต็มความสามารถ
คนเป็นพ่อ แม่ ก็มีหน้าที่รับผิดชอบเลี้ยงดูบุตรให้เติบใหญ่อย่างมีคุณภาพ สมกับความรักที่มีให้ต่อกันและกันเมื่อครั้งที่รักกันใหม่ๆ คนเกิดมีพยานรัก
เมื่อคุณลูกทั้งหลายเรียนหนังสือ หรือทำงานแล้ว มีหน้าที่การงานที่ดีทำ ก็รับผิดชอบพ่อแม่ เนื่องจากท่านก็ได้แก่ชราลง เรี่ยวแรงจะทำงานก็ไม่ไหว ดูแลท่านให้ดีสมกับท่านเป็นผู้กำเนิดเราเพราะบุญคุญพ่อแม่ มากมายเหลือเกิน
คำว่าดูแลดูแลพ่อแม่ ไม่ได้แค่ให้เงินใช้แต่ละเดือน เราต้องดูและรับผิดชอบถนอมน้ำใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะยิ่งแก่ ท่านยิ่งมีอาการน้อยใจได้มาก พาท่านไปทำบุญ ทำกุศล พาไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และสิ่งดีในครอบครัวก็จะเกิดขึ้น เพราะเราดูแลกันด้วยความรักและเอาใจใส่กัน
สามี และภรรยา ก็มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบกันและกัน ใส่ใจดูแลกันให้ดี อยู่ด้วยกันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะไม่เข้าใจกันบ้าง แต่หากความรักที่เรามีให้กันแล้วคำว่า "อภัย และปรารถนาดี" ย่อมมีมากกว่าแล้วชีวิตคู่จะยั่งยืนถาวร
ครูบาอาจารย์ มีหน้าที่สั่งสอนอบมรมศิษย์ให้เป็นคนดี ให้รู้แจ้งเห็นจริงทั้งในวิชาการศึกษาและวิชาชีวิต ฉะนั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ที่ปวารณาตัวแล้วจะเป็นครูบาอาจารย์ย่อมมีจิตใจที่เติบใหญ่ พร้อมที่จะให้และอบรมสั่งสอนศิษย์ให้เต็มภาคภูมิความสามารถ นับได้ว่าครูบาอาจารย์เป็นอาชีพมากกว่าอาชีพ ที่คนเราจะต้องเราเคารพนับถือ มากกว่าผู้มีพระคุณ เป็นเพราะเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลสิ่งตอบแทนใดๆ จริงๆ
เจ้านายต้องรับผิดชอบลูกน้อง ลูกน้องต้องรับผิดชอบหน้าที่การทำงานให้เต็มกำลังสติปัญญาและความสามารถ เป็นเจ้านาย เป็นผู้มีอำนาจ เป็นผู้ใหญ่ต้องมีคุณธรรมประจำใจ ประจำตัว เมื่อพร้อมแล้วที่จะเป็นผู้บังคับบัญชาแล้ว เราก็พร้อมแล้วจะต้องเป็นผู้ให้ มือผู้ให้อยู่สูงกว่ามือผู้รับเสมอ .... ผู้น้อยก็รับแล้วก็ต้องมีคุณธรรมที่จะนำแรงบันดาลใจ ตั้งใจทำงานตอบแทนความรักความเมตตาต่อผู้บังคับบัญชา และแน่นอนว่าหากวันหน้าเราขึ้นเป็นผู้บังคับบัญชา เราก็จะไม่ลืมที่จะส่งต่อคุณธรรมต่อคนรุ่นหลังต่อไป เพราะไม่มีใครจะอยู่ยั่งยืนยงสถาพร ไปตลอดกาล ต้องเตือนตนอยู่เสมอหัวโขน เปลี่ยนได้ตลอดเวลา มีขึ้นก็มีลงเป็นธรรมดาของโลก
ฉะนั้นต่างคน ต่างวาระ ต่างหน้าที่ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะอะไรเราล้วนจะต้องพึ่งพากันเสมอ สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องมีประจำใจคือความรักและปรารถนาดีต่อกัน รับผิดชอบซึ่งกันและกัน สังคมเราจะเต็มไปด้วยคนดีๆ เพราะมีวาสนาต่อกันเราจึงได้เกิดมาและรู้จักกัน คิดถึงคนอื่นให้มากๆ แล้วคุณจะพบกับความสุข
ความสำเร็จของการใช้ชีวิตว่าประสบผลสำเร็จมากแค่ไหนวัดกันในวันที่คุณได้จากโลกนี้ไป ว่าวันนั้นมีใครมาร่วมแสดงความเสียใจในวันที่คุณไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว มีคนรักคุณมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่เพียงเพราะตำแหน่ง อำนาจ หน้าที่ หรือเป็นศิลปิน ดารา ที่คนจะมาแสดงความรักกับคุณในวันสุดท้าย ฝากไว้นะครับ "เพราะไม่รู้จะมีพรุ่งนี้อีกกี่วัน" ...............
ด้วยรักและปรารถนาดี
สนธยา แสนตลาด
20 พฤษภาคม 2559
*** มาร่วมเป็นผู้ให้ มอบความรักและความปรารถนาดี กับอาชีพมหัศจรรย์ "ตัวแทนประกันชีวิต" ด้วยกันนะครับ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น